|
Friday, June 29, 2012
ปวดท้องตรงไหนเป็นอะไรกันแน่ ?
เกาะติดเพื่อน แฟน และ กิ๊ก ว่าอยู่ที่ไหน? แบบ Realtime ด้วย Google Latitude
| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
| |||
|
ของจำเป็น 16 อย่างที่ควรติดไว้ในรถ
| |||
|
ประโยชน์อาหารเสริมที่ควรเลือกบริโภค
| |||
รู้จักอาการเจ็บหน้าอก ที่ไม่เกี่ยวกับหัวใจ
| |||
50 คำคมดีๆ ที่เอามาเคาะหัวใจคุณ
| |||
|
Exercise Your Brain ฟิตศักยภาพ 5 ด้าน ให้สมองคุณ
|
วิตามินไม่ต้องกินทุกวัน
|
วิตามิน H
|
เคล็ดลับการทำงาน อย่างชาวจีนที่คุณเลียนแบบได้
|
รวมคำคมความรักในรูปแบบต่าง ๆ
รวมคำคมความรักในรูปแบบต่าง ๆ ที่จะทำให้คุณรู้สึกและสัมผัสถึงความรักใน รูปแบบต่าง ๆ และอิ่มเอิบใจไปกับความรู้สึกแห่งความรัก ลองอ่านคำคมดี ๆ พวกนี้ดูนะค่ะ
คำคมความรักในแบบรักใครสักคน
อย่าผืนใจรัก...ถ้ามันไม่ใช่
ไม่มีประโยชน์..ที่จะคบกับใครสักคน
เพียง เพราะอยากมี...ใครสักคน
คำคมความรักสำหรับผู้เป็นแม่
มีผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่ทุกทีที่เราหิวข้าว เขาจะไปทำกับข้าวให้กิน
มี ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่เราเกเรแค่ไหน เขาก็ไม่โกรธ
มีผู้หญิงคน เดียวในโลก ที่เราโตแค่ไหน เขาก็ยังเห็นเราเป็นเด็กเล็ก ๆ
มี ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่เรามีแฟนตั้งหลายคน เขาก็ยังรักเรา
มี ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่ไม่ว่าเราจะเป็นอะไร เขาก็ยังห่วงและรักเราเสมอ
ผู้หญิงคนนั้น ก็คือ คุณแม่เรานั่นเอง
คำคมความรักในแบบตามหาความรัก
ใครบางคนพบรักแท้
แค่เปิดตา
ใครบางคนมองหา
กลับไม่เห็น
ใคร บางคนได้รักมา
แต่ยากเย็น
ใครบางคนมองเห็นกลับเมินไป
คำคมความรักโดน ๆ เมื่อแฟนเป็นพวกชอบอยู่กับตัวเอง
อยู่กับตัวเองมากไปหรือเปล่า
แล้วลืมอะไรดีดีไปบ้างไหม
ใครดูแล ห่วงใยใสใจมากมาย
เห็นเขาสำคัญบ้างไหมในสายตา
คำคมเมื่อความรักต้องเลือก
อย่าเลือก
คนที่เราคิดว่าเราน่าจะอยู่กับเขาได้
แต่ให้เลือก
คน ที่เราคิดว่าเราคงอยู่ไม่ได้..ถ้า..ไม่มีเขา
คำคมเมื่อผู้ให้ความรักต้องการความรักตอบบ้าง
คนบางคน..
เกิดมาเพื่อถูกรัก
..แต่ใครบางคน
เกิดมาเพื่อที่จะ รัก
แล้วใครบางคน..คนนั้น
จะเป็นผู้รับความรักได้บ้างหรือเปล่า
คำคมความรักแบบห่วงใย และไม่ต้องการสิ่งตอบแทน
ฉันไม่อยากเข้าไปรบกวนเขา
สำหรับฉัน
มองดูเขาอยู่ตรงนี้
ห่าง ๆ
ก็ พอแล้ว
เมื่อความรักอดีต ความไว้ใจ คือสิ่งที่ต้องการ
ใส่ใจอะไรนักกับอดีต
ไม่ว่าใครก็มีอดีตด้วยกันทั้งนั้น
ที่สำคัญ คือ ทุกวันนี้เรารักกัน
เชื่อใจ และ ไว้ใจเท่านั้น
ก็ไม่มีอะไรต้อง หวั่นไหวอีกต่อไป
เมื่อความห่วงใยของเราถูกล้อเล่น
การล้อเล่นกับความห่วงใยของใครสักคนคน
มันเหมาะสมแล้วหรือ
เมื่อความรักไม่ได้ถูกจดจำด้วยสมอง
ปกติคนเราจะจำด้วยสมอง
แต่จะมีคนพิเศษบางคนเท่านั้น
ที่เราจะจดจำ เขาด้วยหัวใจ
และเมื่อเขาเข้ามาอยู่ในใจเราแล้ว
มันก็ยากและเจ็บปวด ที่จะลืมเลือน
น้ำมันหมู ทำกับข้าวแทน น้ำมันพืช
สมัยก่อนคนไทยนิยมทอดอาหารด้วยน้ำมันหมู
แต่เมื่อน้ำมันพืชเข้ามาบุกตลาดพร้อมกับโฆษณาว่าใช้น้ำมันพืช
แล้วดี เพราะไม่เป็นไข
... ทำให้คนเชื่อว่าน้ำมันหมูไม่ดี เพราะเป็นไขได้ง่าย จึงหันมา
หาบริโภคน้ำมันพืชแทน
จริงๆ แล้วน้ำมันพืช น้ำมันปาล์มจัดเป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัว
การผลิตต้องผ่านกรรมวิธีฟอกสีให้ดูสะอาด สดใส แวววาวพร้อม
กับแต่งกลิ่นไม่ให้เหมืนหืน
ที่โฆษณาว่าไม่เป็นไขนั้นจริงๆแล้ว น้ำมันพืชจะไม่เป็นไขก็ต่อ
เมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาฯ แต่อุณหภูมิในร่างกายคนเราอยู่
ที่ประมาณ 37 องศาฯ
ซึ่งเมื่อน้ำมันพืช น้ำมันปาล์มเข้าสู่ร่างกายแล้ว
จะกลายเป็นกาวเหนียว ๆ เข้าไปเกาะเคลือบผนังลำคอ ลำไส้
กระเพาะ ทำให้ผนังลำไส้เล็กไม่สามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆ
ไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้
นำไปสู่โรคต่าง ๆ มากมาย ทั้งโรคอ้วน โรคคอเลสเตอรอลสูง
โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคไต โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน
โรคไทรอยด์ รวมถึงทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
>>> ตรงข้ามกับน้ำมันหมู ที่เป็นไขมันอิ่มตัว
แต่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไม่เป็นไขและละลายกับน้ำได้ ร่างกาย
จึงดูดซึมสารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่าง
เป็นปกติ คนสมัยก่อนจึงไม่มีปัญหาโรคภัยรุมเร้ามากมายอย่างในปัจจุบัน
ดังนั้น เราจึงควรคิดใหม่ทำใหม่กันอีกครั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่น้ำมันพืชเคยขาดแคลน
หันมาเคี่ยวน้ำมันหมูใช้เองกันดีกว่า ทั้งประหยัด ทั้งปลอดภัยกว่า
น้ำมันพืชเป็นไหนๆ
••• วิธีทดสอบความเป็นไขของน้ำมันพืชและน้ำมันหมู •••
เอาน้ำมันพืชใช่ภาชนะ แล้วเอาไปตากแดด
ในอุณหภูมิประมาณ 30 -37 องศา ซึ่งใกล้เคียงกับร่างกายของเรา
สัก 10 นาที แล้วลองเช็ดน้ำมันออก
จะพบว่าเป็นเมือกกาวซึ่งเช็ดออกยากมาก
ล้างไม่มีทางออก ต้องใช้ "กรด" เท่านั้นถึงล้างออก!
ตรงข้ามกับน้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว ตากแดดแล้วล้างออกง่าย
ทีนี้ลองเลือกเอาเองว่า เราควรจะบริโภคน้ำมันแบบไหนดีกว่ากัน
แต่เมื่อน้ำมันพืชเข้ามาบุกตลาดพร้อมกับโฆษณาว่าใช้น้ำมันพืช
แล้วดี เพราะไม่เป็นไข
... ทำให้คนเชื่อว่าน้ำมันหมูไม่ดี เพราะเป็นไขได้ง่าย จึงหันมา
หาบริโภคน้ำมันพืชแทน
จริงๆ แล้วน้ำมันพืช น้ำมันปาล์มจัดเป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัว
การผลิตต้องผ่านกรรมวิธีฟอกสีให้ดูสะอาด สดใส แวววาวพร้อม
กับแต่งกลิ่นไม่ให้เหมืนหืน
ที่โฆษณาว่าไม่เป็นไขนั้นจริงๆแล้ว น้ำมันพืชจะไม่เป็นไขก็ต่อ
เมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาฯ แต่อุณหภูมิในร่างกายคนเราอยู่
ที่ประมาณ 37 องศาฯ
ซึ่งเมื่อน้ำมันพืช น้ำมันปาล์มเข้าสู่ร่างกายแล้ว
จะกลายเป็นกาวเหนียว ๆ เข้าไปเกาะเคลือบผนังลำคอ ลำไส้
กระเพาะ ทำให้ผนังลำไส้เล็กไม่สามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆ
ไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้
นำไปสู่โรคต่าง ๆ มากมาย ทั้งโรคอ้วน โรคคอเลสเตอรอลสูง
โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคไต โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน
โรคไทรอยด์ รวมถึงทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
>>> ตรงข้ามกับน้ำมันหมู ที่เป็นไขมันอิ่มตัว
แต่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไม่เป็นไขและละลายกับน้ำได้ ร่างกาย
จึงดูดซึมสารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่าง
เป็นปกติ คนสมัยก่อนจึงไม่มีปัญหาโรคภัยรุมเร้ามากมายอย่างในปัจจุบัน
ดังนั้น เราจึงควรคิดใหม่ทำใหม่กันอีกครั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่น้ำมันพืชเคยขาดแคลน
หันมาเคี่ยวน้ำมันหมูใช้เองกันดีกว่า ทั้งประหยัด ทั้งปลอดภัยกว่า
น้ำมันพืชเป็นไหนๆ
••• วิธีทดสอบความเป็นไขของน้ำมันพืชและน้ำมันหมู •••
เอาน้ำมันพืชใช่ภาชนะ แล้วเอาไปตากแดด
ในอุณหภูมิประมาณ 30 -37 องศา ซึ่งใกล้เคียงกับร่างกายของเรา
สัก 10 นาที แล้วลองเช็ดน้ำมันออก
จะพบว่าเป็นเมือกกาวซึ่งเช็ดออกยากมาก
ล้างไม่มีทางออก ต้องใช้ "กรด" เท่านั้นถึงล้างออก!
ตรงข้ามกับน้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว ตากแดดแล้วล้างออกง่าย
ทีนี้ลองเลือกเอาเองว่า เราควรจะบริโภคน้ำมันแบบไหนดีกว่ากัน
Thursday, June 28, 2012
7 ขั้นตอน ในการค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เชื่อว่าใครหลายคนต้องเคยมานั่งนึกถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่า ในอนาคต "อยากทำงานอะไร?" หากคุณตอบว่า ไม่รู้ นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะยังมีคนอยู่อีกไม่น้อยที่ตอบตัวเองไม่ได้ แม้วัยจะล่วงเลยมากขึ้นทุกวัน ๆ แต่เราก็ยังไม่พบคำตอบที่ต้องการอยู่ดี ว่าจริง ๆ แล้วเราอยากทำอะไรกันแน่ ดังนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมจะมาช่วยแนะนำวิธีหาคำตอบที่หายไปของคุณเองครับ
1. ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและถนัดที่สุด
คนเราถ้าจะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่ออะไรสักอย่าง ก็ควรได้ทำในสิ่งที่ชอบและถนัดมากที่สุด เพราะมันจะทำให้ผลงานออกมาดี เมื่อได้ใส่ใจลงไปในเนื้องานด้วย ไม่ใช่ทำอะไรไปตามหน้าที่ รับผิดชอบให้ผ่านไปวัน ๆ ทั้งที่ใจกลับไม่ชอบเลย คุณจะมีความสุขจริงเหรอ? โอเคล่ะ...คุณอาจทำได้ แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้างานที่ทำอยู่ทุกวัน คือ สิ่งที่คุณรักมากที่สุด
2. สังเกตคนที่อยู่รอบตัวคุณ
ลองสังเกตคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวคุณสิ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว ญาติพี่น้องหรือแม้กระทั่งเพื่อน เพราะหลายครั้งที่พบว่า การได้อยู่ใกล้ ๆ และสัมผัสอิทธิพลจากสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณ คือ สิ่งที่ใจคุณปรารถนาจะทำมากที่สุด เช่น เห็นคุณพ่อในเครื่องแบบตำรวจมาตั้งแต่เล็ก ๆ ได้เห็นวิธีการที่ท่านทำงานมาโดยตลอด จนบางครั้งคุณไม่รู้ตัวหรอกว่ามันค่อย ๆ ซึมซับเข้ามาในใจคุณ และอยากเป็นให้ได้อย่างท่านบ้าง
3. สร้างแรงบันดาลใจ
การจะทำอะไรสักอย่างให้ได้ผลตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ เราอาจต้องสร้างแรงบันดาลใจบางอย่างขึ้นมาให้กับตัวเอง เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้มีไฟในการเดินตามจุดมุ่งหมายต่อไป
4. หาใครสักคนมาเป็นไอดอล
เมื่อคุณตอบตัวเองได้ว่าตัวเองชอบงานประเภทไหน ลำดับต่อไปก็อาจลองมองหาใครสักคนที่ทำงานในด้านที่คุณชอบมาเป็นไอดอลให้กับตัวเองดูสิ แล้วเขาคนนั้นแหละ จะกลายเป็นแรงจูงใจให้คุณพยายามก้าวเดินไปข้างหน้าให้ได้อย่างที่เขาทำ และสักวันหนึ่งคุณอาจจะประสบความสำเร็จเหมือนเขาก็เป็นได้
5. ไปขอฝึกงาน
การฝึกงาน คือ สิ่งที่ช่วยขัดเกลาฝีมือการทำงานของคุณให้ดีขึ้น และยังได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนอีกด้วย แม้การฝึกงานกับบริษัทบางแห่ง อาจไม่ได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน แต่อย่างน้อยสิ่งที่ได้มาทดแทนและมีคุณค่ามากกับชีวิต คือ ประสบการณ์ นั่นเอง นอกจากนี้ยังเป็นเสมือนช่วงทดสอบความต้องการของคุณด้วยว่า ชอบสายงานที่ทำอยู่จริง ๆ หรือไม่ เพราะคุณได้มีเวลาคลุกกับมันแทบจะตลอดเวลา
6. ลองทำหลาย ๆ อย่าง
วันนี้คุณอาจค้นพบแล้วว่าตัวเองชอบอะไร แต่มันก็ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่า คุณจะรักในสิ่งนี้ตลอดไป เพราะคนเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่าหมดไฟ หรือไม่มีกระจิตกระใจในงานที่ทำอยู่แล้ว ลองออกไปหางานอื่นที่แตกต่างออกไปทำสิ เพราะคุณอาจพบว่า นี่แหละ!! คือ สิ่งที่อยากทำมาโดยตลอด
7. งานแบบไหนที่ทำรายได้ให้คุณมากที่สุด
ไม่แปลกหรอกว่า บางคนจำต้องหางานที่ให้เงินเดือนมากที่สุดกับตัวเอง แทนที่จะเลือกทำในสิ่งที่รัก เพราะข้อจำกัด เงื่อนไข และความจำเป็นของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น อย่าเพิ่งตีคุณค่าของคนไปแบบผิด ๆ เพียงเพราะเขาเลือกประกอบอาชีพที่ทำเงินได้เยอะ ๆ ลองคิดกลับกันถ้าคุณมีชีวิตเหมือนเขา บางทีก็อาจเลือกทำด้วยเหตุผลเดียวกับเขาเหมือนกันก็ได้ ฉะนั้น ไม่แปลกเลยที่คุณอาจเป็นหนึ่งในคนที่เลือกอาชีพเพราะค่าตอบแทน เมื่อมีหนทางที่ดีกว่าก็ต้องเลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
การค้นหาตัวเองให้เจอ อาจไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย ๆ และไม่ได้พบในเร็ววัน แต่หากคุณมีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริง สักวันก็ต้องประสบความสำเร็จจนได้ และในท้ายที่สุดคุณก็พบแล้วว่าต้องการอะไรจากชีวิตตัวเอง
Wednesday, June 27, 2012
แจ่ม! Art in Paradise พัทยา พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ เดี๋ยวก็รู้ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ไปเที่ยวพัทยากันเถอะ! ฟังดูคุ้นเค๊ย คุ้นเคย แต่ไม่เชยนะจ๊ะ เพราะวันนี้ที่พัทยาเขามีทีเด็ดมาให้แวะเที่ยวกันอีกแล้ว หลายคนคงเคยเห็นภาพวาด 3 มิติ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนจริงสุด ๆ จากต่างประเทศกันมาบ้าง ทั้งจากฟอร์เวิร์ดเมล รูปถ่าย หรือคลิปวิดีโอ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นของจริงสักที ว่าภาพ 3 มิติเหล่านั้นจะเหมือนจริงขนาดไหน -_-'
โชคดีเป็นของคุณ! เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ต้องไปหาดูไกลถึงต่างประเทศแล้วจ้า เชิญตรงดิ่งไปพัทยาแล้วแวะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ Art in Paradise ให้เพลินตาเพลินใจกันได้เลย เพราะที่นี่เขารวบรวมศิลปะภาพวาด 3 มิติ แบบเหมือนจริงสุด ๆ มาไว้ให้ได้เข้าชมกันเป็นร้อยรูปเลยล่ะ แถมวันนี้กระปุกท่องเที่ยวก็ได้นำเอารีวิวภาพของ คุณ เดี๋ยวก็รู้ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาให้ชมเป็นการเรียกน้ำจิ้มด้วย ส่วนจะเด็ดแค่ไหนต้องตามไปดูกันเลย...
นอกจากนี้ เขายังแบ่งห้องแสดงภาพออกเป็น 10 ห้องด้วยกัน เพื่อจัดแสดงภาพให้เป็นหมวดหมู่ มีทั้ง ห้องลวงตา, ห้องใต้สมุทร, ห้องสัตว์ป่า, ห้องภาพจิตรกรรมของศิลปินระดับโลก, โถงอารยธรรม, ห้องศิลปะเหนือจริง, ห้องไดโนเสาร์, ห้องน้ำตกสูงชัน, ห้องวิวทิวทัศน์ และสุดท้ายห้องนิทรรศการศิลปะ ที่ตั้งใจเตรียมไว้สำหรับจัดแสดงผลงานทางศิลปะของศิลปินที่สนใจจะเข้าไปใช้พื้นที่ด้วย
ข้อดีของที่นี่ คือ เขาอนุญาตให้ถ่ายรูปเล่นกับภาพศิลปะเหล่านั้นได้อย่างอิสระ โดยเขาจะมีการตัวอย่างการโพสท่าเอาไว้ให้ แต่ถ้าใครอยากสร้างสรรค์ท่าถ่ายรูปใหม่ ๆ ก็เชิญเต็มที่ เพราะแน่นอนว่าภาพวาดทุกชิ้นจะมีคุณค่ามากขึ้นก็ต่อเมื่อผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมกับภาพ ให้ภาพดูมีชีวิตชีวาและสมจริงมากยิ่งขึ้น รวบรวมพลังสร้างสรรค์ที่คุณมีแล้วครีเอทท่าตามต้องการได้เลย
ใครอยากลองไปสัมผัสความอาร์ตที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปพัทยาได้เลย หาไม่ยากแค่เลี้ยวขวาจากถนนสุขุมวิทเข้าพัทยาเหนือ ผ่านหน้าโลตัสและศาลากลางเมืองพัทยา เลี้ยวซ้ายไปทางบิ๊กซีพัทยาเหนือตรงไปอีก 300 เมตร ก็จะเจอพิพิธภัณฑ์ Art in Paradise แล้วล่ะ
สำหรับค่าเข้าชม คนไทยราคา 150 บาท, เด็กส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร ราคา 100 บาท ส่วนชาวต่างชาติค่าเข้าชมราคา 500 บาท, เด็กส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร ราคา 300 บาท โดยเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 น. ซึ่งสามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ถึงเวลา 20.00 น. ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 038-424-500
นั่นแน่! คุณเริ่มอยากไปสัมผัส Art in Paradise ด้วยตาตัวเองแล้วใช่ไหมล่ะ ^^
Subscribe to:
Posts (Atom)
This Day in History
This Day in History
provided by The Free Dictionary
Today's Birthday
Today's Birthday
provided by The Free Dictionary